เรียกว่าเป็นเรื่องจริงที่เหลือเชื่อสุดๆไปเลยก็ว่าได้สำหรับคนที่ถูกฟ้าผ่าแล้วไม่ตาย แถมกลับได้รอยประหลาดคล้ายรอยสักมาอีก ซึ่งความรุนแรงของสายฟ้าแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 100 ล้านโวลต์ ซึ่งแน่นอนไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนก็คงรอดยาก แต่ที่น่าแปลกคือจากสถิติพบว่าคนที่ถูกฟ้าผ่านั้นมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1 : 3 เท่านั้น
กับคำถามที่ว่าทำไมบางครั้งฟ้าผ่าใส่ตัวคนเต็มๆ แต่กลับรอดชีวิตมาได้นั้น โดยหลักการฟ้าผ่านั้นพลังงานจะหาเส้นทางที่สั้นที่สุดลงสู่ดิน ซึ่งหากโดนเข้าที่ตัวคนอาจผ่านหัวไหล่ลงตามร่างกายข้างหนึ่ง ไปผ่านขาลงสู่พื้นดิน ในระหว่างทางพลังงานไฟฟ้ามหาศาลจะก่อให้เกิดความเจ็บปวด อาการตกใจแน่นิ่งหรือช็อค และไฟลวกไหม้ แต่พลังงานทั้งหมดจะลงไปในพื้นดิน กล่าวคือถ้าพลังงานไฟฟ้าจากฟ้าผ่าไม่ได้เดินทางผ่านหัวใจหรือกระดูกสันหลัง คนคนนั้นอาจจะไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่หากผ่านหัวใจก็มักจะเสียชีวิตแน่นอน
และคนที่ถูกฟ้าผ่าส่วนมากนั้นจะมีรอยแผลเป็น คล้ายกับรอยสักที่มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “Lichtenberg” ถูกตั้งชื่อตามนักวิทยาศาสตร์นักฟิสิกส์เยอรมัน Georg Christoph Lichtenberg ผู้ค้นพบและเป็นคนที่ศึกษาเรื่องของปรากฏการณ์-ลักษณะของฟ้าผ่า
Lichtenberg figure เป็นรอยคล้ายขนนกหรือใบเฟิร์นอยู่บนผิวหนังและมักจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง เกิดขึ้นจากกระแสอิเลคตรอนที่อาบลงมาบนผิวหนัง แต่ไม่ใช่การบาดเจ็บจากความร้อนแต่อย่างใด
ที่มา:http://www.thaisook.com/5492
